GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "Shadow of the Tomb Raider"
Lenovo Legion 5 ที่สุดแห่งดีไซน์! โมเดลที่เหมาะจะเป็นเครื่องรองพกพามากที่สุด
โดยปกติแล้ว เชื่อว่าเกมเมอร์บน PC ในปัจจุบันได้หันมาใช้เครื่องแบบประกอบกันหมดแล้ว เนื่องจากมีราคาถูกลงเป็นอย่างมาก ทั้งยังสามารถเพิ่มลดราคาในชิ้นส่วนต่างๆ ได้ตามใจ แต่การใช้เครื่องแบบประกอบก็มีปัญหาในเรื่องของความสะดวกเวลาใช้งานนอกสถานที่ เนื่องจากการยกไปยกมาไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลย ส่งผลให้หลายคนเลือกที่จะซื้อ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาไม่แพงมาก เอาไว้ใช้เล่นเกมเมื่อจำเป็นต้องเดินทางไปที่ไกลๆ ซึ่งทางฝั่งผู้ผลิตเองก็เล็งเห็นถึงจุดนี้ และเริ่มให้ความสำคัญกับตลาดโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาจับต้องได้มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ Lenovo ที่ออกซีรีส์ Legion ของพวกเขาให้มีราคาตั้งแต่ 20,000 กลางๆ ไปจนถึง เกือบๆ 100.000 โดยเครื่องที่ผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักวันนี้คือ LENOVO LEGION 5 15ARH05-82B500FQTA ที่มีราคาอยู่ที่ประมาณ 33.000 บาท ครับ ดีไซน์เรียบหรูดูแพง เรื่องแรกที่เห็นแล้วเป็นต้องหลงรักเลยคือในเรื่องของดีไซน์ที่มาในสีดำเรียบทั้งเครื่อง เรียบเนียน บางเฉียบ คือเห็นแล้วจะมีความรู้สึกว่า "เครื่องนี้จะต้องมีราคาอย่างแน่นอน" แต่ในความเป็นจริงๆ ราคาของ Legion 5 ก็ไม่ถึงกับจับต้องไม่ได้เหมือนกับตัวท็อปๆ ของแบรนด์อื่นครับ ล่าสุดที่พบเช็กในเว็บไซต์ของ JIB รุ่นที่ผมได้มามีราคาแค่เพียง 32,900 บาทเท่านั้น คือเรียกได้ว่าไม่แพงจนเกินไปจริงๆ น้ำหนักเพียง 2.46 กิโล เบากว่านี้ก็มือถือแล้ว Legion 5 ถือได้ว่าเป็นโมเดลที่ Lenovo ใส่ใจเรื่องของการออกแบบเป็นอย่างมาก โดยสามารถสัมผัสได้เลยหลังจากได้ใช้งานด้วยตัวเอง เรื่องแรกคือน้ำหนักที่ไม่มากจนเกินไปเพียงแต่ 2.46 กิโลเท่านั้น ส่งผลให้การพกพาโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งเครื่องนี้ไปเล่นนอกสถานที่สามารถทำได้ง่าย และไม่เป็นภาระของผู้ใช้งาน พอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาเยอะ และไม่เกะกะ เรื่องที่สองคือพอร์ตการเชื่อมต่อ Legion 5 ออกแบบให้เกือบทั้งหมดต้องทำผ่านหลังเครื่องเท่านั้น และเหลือ USB ไว้ทางซ้ายกับขวาของเครื่องเพียงแค่ด้านละ 1 พอร์ต ซึ่งการทำแบบนี้จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานมีพื้นที่สำหรับขยับเมาส์ไปมาได้มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาหัวของสาย USB จากเมาส์, คีย์บอร์ด, สาย Power, และ สาย HDMI มักสร้างปัญหากินพื้นที่ข้างๆ ของโน๊ตบุ๊คไปโดยไม่จำเป็นเสมอ ถือได้ว่าคิดเพื่อผู้ใช้งานมาเป็นอย่างดีจริงๆ ครับ คุณสมบัตติทางเทคนิค CPU: AMD Ryzen 7 4600H Max boots 4.2 GHz GPU: NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti 4GB GDDR6 Screen Size: 15.6" (1920x1080) Full HD Panel Type: IPS Anti Glare – จอด้าน Refresh Rate: 144 Hz Memory Size: 8 GB DDR4 Solid State Drive: 512 GB SSD PCIe M.2 Weight: 2.46 kg OS Bundle: Windows 10 Home (64 Bit) หลังจากได้อ่านสเปคคร่าวๆ แล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า เจ้าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไม่ได้มาพร้อมกับสเปคที่แรงอะไรมากมายนัก แต่ก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อยจนเล่นเกมใหญ่ๆ ไม่ไหว กล่าวคือเป็นสเปคที่สมราคา และไม่แพงจนเกินไปจะถือว่าถูกต้องที่สุดครับ ออกแบบมาให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น โดยปกติแล้วโน๊ตบุ๊คจะมีข้อเสียที่ร้ายแรงมากๆ อยู่ที่การระบายความร้อน เนื่องจากพัดลมที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และทิศทางการระบายที่ไม่ดีเท่ากับเครื่อง PC โดยเจ้า Legion 5 ถูกออกแบบมาดูดลมเย็นเข้าข้างล่าง และระบายออกทางด้านหลังของเครื่อง และมีการยกเครื่องให้สูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ลมเย็นสามารถไหลเข้าไปใต้เครื่องได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็ถือว่าช่วยได้เยอะมากเลยจาก เท่าที่ผมได้ใช้งานมาครับ เล่นเกมเป็นไง ในส่วนของการเล่นเกมตัวผมเองได้ทำการ Test ในเกมสองกลุ่มคือที่เป็นแนว Online เน้นไปที่การเล่นแบบ Multiplayer กับกลุ่มเกม AAA ที่มีกราฟิกหนักๆ ซึ่งจะขอกล่าวรวมถึงโชว์ผลทดสอบต่อไปแบบแบ่งหมวดหมู่กันข้างล่างนี้ครับ เกม AAA โดยปกติเกมตระกูลนี้จะมาพร้อมกับ ภาพ / กราฟิก ที่สวยงาม ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความสามารถของ Hardware ที่สูงถึงจะดันภาพได้มากกว่า 60 FPS ผมได้ทดลองใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ทดลองเล่น 3 เกมด้วยกันคือ Shadow of the Tomb Raider, Assassins Creed Valhalla และ Cyberpunk 2077 ครับ Shadow of the Tomb Raider ผมทดลองใช้ Benchmark ที่ตัวเกมมีมาให้ ในการทดสอบคุณภาพกราฟิกระดับ High ดู โดยเจ้าเครื่องนี้สามารถทำ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 54 FPS ซึ่งถือว่าทำได้เกินความคาดหมายของผมอยู่พอสมควร เนื่องจากเกมนี้จริงๆ แล้วค่อนข้างจะกินสเปคมาก และมีผู้เล่นหลายคนบ่นเกี่ยวกับเรื่อง FPS ที่ต่ำครับ ดูผลทดสอบได้ข้างล่างนี้ Assassins Creed Valhalla ต่อมาคือเกมภาคต่อของซีรีส์นักฆ่าที่ให้เรารับบทเป็นชาวไวกิง ซึ่งด้วยความที่เกมนี้มี Benchmark มาให้เหมือนกันผมเลยทำการทดสอบโดยตั้งคุณภาพของกราฟิกเป็นแบบ Custom โดยดันตัวเลือกต่างๆ ขึ้นไป High ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (แรมการ์ดจอน้อยเลยไป High หมดไม่ได้ครับ) โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 45 FPS ต่ำสุด 28 และสูงสุด 70 ครับ ดูผลทดสอบเต็มๆ ได้ข้างล่าง Cyberpunk 2077 ปิดท้ายด้วยเกมฟอร์มยักษ์จากทาง CD Projekt Red ที่น่าจะมีกราฟิกโหดที่สุดในตอนนี้ น่าเสียดายที่เกมนี้ไม่มี Benchmark มาให้ใช้ด้วยเช่นเดียวกับทั้งสองเกมข้างบนผมจึงไม่มีค่าเฉลี่ยหรือกราฟมาให้ดู เบื้องต้นผมตั้งค่ากราฟิกไว้ที่ Medium เท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ใกล้เคียงกับ Assassins Creed Valhalla มีค่า Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ประมาณ 45 FPS มีลงไปต่ำถึง 22 - 28 FPS บ้าง และในฉากต่อสู้แบบดุเดือดจัดๆ จะเฉลี่ยอยู่ที่ 35 - 40 FPS ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ แนว Online เน้น Multiplayer เชื่อว่าถ้าเป็นแนวนี้เพื่อนๆ น่าจะอยากเห็นผลทดสอบของเกมตระกูล FPS มากที่สุดผมจึงเลือกเกมมาทดสอบสองตัวด้วยกันคือ Apex Legends และ Valorant ครับ Apex Legends ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกม Battle Royale ที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะมีอายุได้ 3 ปีแล้ว โดยสำหรับเพื่อนๆ ที่เล่นเกมนี้อยู่น่าจะทราบดีเลยว่า Apex เป็นเกมอีกเกมกินสเปคสูงมาก โดยในการทดสอบครั้งนี้ผมได้ตั้งค่าทุกอย่างเอาไว้ที่ High เลย ซึ่งเครื่องก็สามารถทำ FPS เฉลี่ยได้มากกว่า 60 FPS และมีขึ้นไปสูงถึง 100 FPS บ้างในที่มืด รวมถึงมีตกลงไปถึง 49 FPS บ้างเวลาดวลปืนกันแบบเดือดๆ ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ Valorant ดูเกมที่ใช้สเปคแรงๆ ไปแล้วมาดูเกมที่ไม่ค่อยกินเท่าไหร่อย่าง Valorant บ้าง เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ผมได้ตั้งค่ากราฟิกของเกมไว้ที่ High เช่นกัน โดยค่า FPS เฉลี่ยก็อยู่ที่มากกว่า 120 ครับมีบางครั้งที่ตกลงไปถึง 100 บ้าง และก็มีบางครั้งที่พุ่งขึ้นไปถึง 170 FPS เช่นกัน สรุป โดยรวมแล้ว Legion 5 ถือเป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องรอง ที่เหมาะจะเอาไว้เล่นเกมเวลาจำเป็นต้องออกไปนอกสถานที่สำหรับเหล่าเกมเมอร์ และอาจเป็นเครื่องที่เหมาะจะใช้เป็นเครื่องหลักหากไม่ได้มีรสนิยมชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ ก็สามารถซื้อรุ่นนี้ไปใช้งานได้ แต่ถ้าหากเป็นคนชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ เป็นหลักแล้วละก็ ตัวผมเองไม่แนะนำเท่าไหร่ครับ เนื่องจากต่อให้โมเดลนี้จะสามารถระบายความร้อนได้ดีขนาดไหน ตัวเครื่องก็ยังถือว่ามีความร้อนที่สูงจนอาจเป็นอันตรายต่อ อะไหล่ภายใน หรือตัวผู้ใช้งานอยู่ดีครับ  
19 Feb 2021
Lenovo Legion 5 ที่สุดแห่งดีไซน์! โมเดลที่เหมาะจะเป็นเครื่องรองพกพามากที่สุด
โดยปกติแล้ว เชื่อว่าเกมเมอร์บน PC ในปัจจุบันได้หันมาใช้เครื่องแบบประกอบกันหมดแล้ว เนื่องจากมีราคาถูกลงเป็นอย่างมาก ทั้งยังสามารถเพิ่มลดราคาในชิ้นส่วนต่างๆ ได้ตามใจ แต่การใช้เครื่องแบบประกอบก็มีปัญหาในเรื่องของความสะดวกเวลาใช้งานนอกสถานที่ เนื่องจากการยกไปยกมาไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลย ส่งผลให้หลายคนเลือกที่จะซื้อ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาไม่แพงมาก เอาไว้ใช้เล่นเกมเมื่อจำเป็นต้องเดินทางไปที่ไกลๆ ซึ่งทางฝั่งผู้ผลิตเองก็เล็งเห็นถึงจุดนี้ และเริ่มให้ความสำคัญกับตลาดโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาจับต้องได้มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ Lenovo ที่ออกซีรีส์ Legion ของพวกเขาให้มีราคาตั้งแต่ 20,000 กลางๆ ไปจนถึง เกือบๆ 100.000 โดยเครื่องที่ผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักวันนี้คือ LENOVO LEGION 5 15ARH05-82B500FQTA ที่มีราคาอยู่ที่ประมาณ 33.000 บาท ครับ ดีไซน์เรียบหรูดูแพง เรื่องแรกที่เห็นแล้วเป็นต้องหลงรักเลยคือในเรื่องของดีไซน์ที่มาในสีดำเรียบทั้งเครื่อง เรียบเนียน บางเฉียบ คือเห็นแล้วจะมีความรู้สึกว่า "เครื่องนี้จะต้องมีราคาอย่างแน่นอน" แต่ในความเป็นจริงๆ ราคาของ Legion 5 ก็ไม่ถึงกับจับต้องไม่ได้เหมือนกับตัวท็อปๆ ของแบรนด์อื่นครับ ล่าสุดที่พบเช็กในเว็บไซต์ของ JIB รุ่นที่ผมได้มามีราคาแค่เพียง 32,900 บาทเท่านั้น คือเรียกได้ว่าไม่แพงจนเกินไปจริงๆ น้ำหนักเพียง 2.46 กิโล เบากว่านี้ก็มือถือแล้ว Legion 5 ถือได้ว่าเป็นโมเดลที่ Lenovo ใส่ใจเรื่องของการออกแบบเป็นอย่างมาก โดยสามารถสัมผัสได้เลยหลังจากได้ใช้งานด้วยตัวเอง เรื่องแรกคือน้ำหนักที่ไม่มากจนเกินไปเพียงแต่ 2.46 กิโลเท่านั้น ส่งผลให้การพกพาโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งเครื่องนี้ไปเล่นนอกสถานที่สามารถทำได้ง่าย และไม่เป็นภาระของผู้ใช้งาน พอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาเยอะ และไม่เกะกะ เรื่องที่สองคือพอร์ตการเชื่อมต่อ Legion 5 ออกแบบให้เกือบทั้งหมดต้องทำผ่านหลังเครื่องเท่านั้น และเหลือ USB ไว้ทางซ้ายกับขวาของเครื่องเพียงแค่ด้านละ 1 พอร์ต ซึ่งการทำแบบนี้จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานมีพื้นที่สำหรับขยับเมาส์ไปมาได้มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาหัวของสาย USB จากเมาส์, คีย์บอร์ด, สาย Power, และ สาย HDMI มักสร้างปัญหากินพื้นที่ข้างๆ ของโน๊ตบุ๊คไปโดยไม่จำเป็นเสมอ ถือได้ว่าคิดเพื่อผู้ใช้งานมาเป็นอย่างดีจริงๆ ครับ คุณสมบัตติทางเทคนิค CPU: AMD Ryzen 7 4600H Max boots 4.2 GHz GPU: NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti 4GB GDDR6 Screen Size: 15.6" (1920x1080) Full HD Panel Type: IPS Anti Glare – จอด้าน Refresh Rate: 144 Hz Memory Size: 8 GB DDR4 Solid State Drive: 512 GB SSD PCIe M.2 Weight: 2.46 kg OS Bundle: Windows 10 Home (64 Bit) หลังจากได้อ่านสเปคคร่าวๆ แล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า เจ้าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไม่ได้มาพร้อมกับสเปคที่แรงอะไรมากมายนัก แต่ก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อยจนเล่นเกมใหญ่ๆ ไม่ไหว กล่าวคือเป็นสเปคที่สมราคา และไม่แพงจนเกินไปจะถือว่าถูกต้องที่สุดครับ ออกแบบมาให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น โดยปกติแล้วโน๊ตบุ๊คจะมีข้อเสียที่ร้ายแรงมากๆ อยู่ที่การระบายความร้อน เนื่องจากพัดลมที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และทิศทางการระบายที่ไม่ดีเท่ากับเครื่อง PC โดยเจ้า Legion 5 ถูกออกแบบมาดูดลมเย็นเข้าข้างล่าง และระบายออกทางด้านหลังของเครื่อง และมีการยกเครื่องให้สูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ลมเย็นสามารถไหลเข้าไปใต้เครื่องได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็ถือว่าช่วยได้เยอะมากเลยจาก เท่าที่ผมได้ใช้งานมาครับ เล่นเกมเป็นไง ในส่วนของการเล่นเกมตัวผมเองได้ทำการ Test ในเกมสองกลุ่มคือที่เป็นแนว Online เน้นไปที่การเล่นแบบ Multiplayer กับกลุ่มเกม AAA ที่มีกราฟิกหนักๆ ซึ่งจะขอกล่าวรวมถึงโชว์ผลทดสอบต่อไปแบบแบ่งหมวดหมู่กันข้างล่างนี้ครับ เกม AAA โดยปกติเกมตระกูลนี้จะมาพร้อมกับ ภาพ / กราฟิก ที่สวยงาม ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความสามารถของ Hardware ที่สูงถึงจะดันภาพได้มากกว่า 60 FPS ผมได้ทดลองใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ทดลองเล่น 3 เกมด้วยกันคือ Shadow of the Tomb Raider, Assassins Creed Valhalla และ Cyberpunk 2077 ครับ Shadow of the Tomb Raider ผมทดลองใช้ Benchmark ที่ตัวเกมมีมาให้ ในการทดสอบคุณภาพกราฟิกระดับ High ดู โดยเจ้าเครื่องนี้สามารถทำ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 54 FPS ซึ่งถือว่าทำได้เกินความคาดหมายของผมอยู่พอสมควร เนื่องจากเกมนี้จริงๆ แล้วค่อนข้างจะกินสเปคมาก และมีผู้เล่นหลายคนบ่นเกี่ยวกับเรื่อง FPS ที่ต่ำครับ ดูผลทดสอบได้ข้างล่างนี้ Assassins Creed Valhalla ต่อมาคือเกมภาคต่อของซีรีส์นักฆ่าที่ให้เรารับบทเป็นชาวไวกิง ซึ่งด้วยความที่เกมนี้มี Benchmark มาให้เหมือนกันผมเลยทำการทดสอบโดยตั้งคุณภาพของกราฟิกเป็นแบบ Custom โดยดันตัวเลือกต่างๆ ขึ้นไป High ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (แรมการ์ดจอน้อยเลยไป High หมดไม่ได้ครับ) โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 45 FPS ต่ำสุด 28 และสูงสุด 70 ครับ ดูผลทดสอบเต็มๆ ได้ข้างล่าง Cyberpunk 2077 ปิดท้ายด้วยเกมฟอร์มยักษ์จากทาง CD Projekt Red ที่น่าจะมีกราฟิกโหดที่สุดในตอนนี้ น่าเสียดายที่เกมนี้ไม่มี Benchmark มาให้ใช้ด้วยเช่นเดียวกับทั้งสองเกมข้างบนผมจึงไม่มีค่าเฉลี่ยหรือกราฟมาให้ดู เบื้องต้นผมตั้งค่ากราฟิกไว้ที่ Medium เท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ใกล้เคียงกับ Assassins Creed Valhalla มีค่า Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ประมาณ 45 FPS มีลงไปต่ำถึง 22 - 28 FPS บ้าง และในฉากต่อสู้แบบดุเดือดจัดๆ จะเฉลี่ยอยู่ที่ 35 - 40 FPS ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ แนว Online เน้น Multiplayer เชื่อว่าถ้าเป็นแนวนี้เพื่อนๆ น่าจะอยากเห็นผลทดสอบของเกมตระกูล FPS มากที่สุดผมจึงเลือกเกมมาทดสอบสองตัวด้วยกันคือ Apex Legends และ Valorant ครับ Apex Legends ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกม Battle Royale ที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะมีอายุได้ 3 ปีแล้ว โดยสำหรับเพื่อนๆ ที่เล่นเกมนี้อยู่น่าจะทราบดีเลยว่า Apex เป็นเกมอีกเกมกินสเปคสูงมาก โดยในการทดสอบครั้งนี้ผมได้ตั้งค่าทุกอย่างเอาไว้ที่ High เลย ซึ่งเครื่องก็สามารถทำ FPS เฉลี่ยได้มากกว่า 60 FPS และมีขึ้นไปสูงถึง 100 FPS บ้างในที่มืด รวมถึงมีตกลงไปถึง 49 FPS บ้างเวลาดวลปืนกันแบบเดือดๆ ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ Valorant ดูเกมที่ใช้สเปคแรงๆ ไปแล้วมาดูเกมที่ไม่ค่อยกินเท่าไหร่อย่าง Valorant บ้าง เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ผมได้ตั้งค่ากราฟิกของเกมไว้ที่ High เช่นกัน โดยค่า FPS เฉลี่ยก็อยู่ที่มากกว่า 120 ครับมีบางครั้งที่ตกลงไปถึง 100 บ้าง และก็มีบางครั้งที่พุ่งขึ้นไปถึง 170 FPS เช่นกัน สรุป โดยรวมแล้ว Legion 5 ถือเป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องรอง ที่เหมาะจะเอาไว้เล่นเกมเวลาจำเป็นต้องออกไปนอกสถานที่สำหรับเหล่าเกมเมอร์ และอาจเป็นเครื่องที่เหมาะจะใช้เป็นเครื่องหลักหากไม่ได้มีรสนิยมชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ ก็สามารถซื้อรุ่นนี้ไปใช้งานได้ แต่ถ้าหากเป็นคนชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ เป็นหลักแล้วละก็ ตัวผมเองไม่แนะนำเท่าไหร่ครับ เนื่องจากต่อให้โมเดลนี้จะสามารถระบายความร้อนได้ดีขนาดไหน ตัวเครื่องก็ยังถือว่ามีความร้อนที่สูงจนอาจเป็นอันตรายต่อ อะไหล่ภายใน หรือตัวผู้ใช้งานอยู่ดีครับ  
19 Feb 2021
Shadow of the Tomb Raider ปล่อยตัวอย่าง DLC ใหม่ The Forge
เผย DLC ตัวแรกออกมาแล้วสำหรับเกม Shadow of the Tomb Raider ที่เราจะได้พาสาวน้อย Lala Croft เข้าสู่ดินแดนลาวา Forge of the fallen gods ที่จะต้องค้นหาความลับของ Kuwaq Yaku โดยเนื้อหาเสริมนี้มีทั้งโหมดผู้เล่นคนเดียวและผู้เล่นสองคน โดยใครที่สามารถผ่านปริศนาต่างๆ จะได้รับ Grenadier skill, Brocken outfit, และ Umbrage 3-80 weapon. https://www.youtube.com/watch?time_continue=29&v=IVe73qxDL0M โดย DLC ตัวนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2018 สนนราคาราวๆ 4.99$ หรือรวมใน Season Pass Shadow of Tomb Raider เป็นเกมแนว Action Adventure จากทาง Square Enix โดยในภาคนี้ทางผู้พัฒนาบอกว่าจะเป็นภาคสุดท้ายที่เราจะได้พบเจอกับ Lala Croft ในช่วงเริ่มต้น ก่อนสู่การเป็นมืออาชีพที่แท้จริง โดยตัวเกมลงบนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One สนนราคาราวๆ 1,989 บาท LINK ขอบคุณข้อมูลจาก Gematsu
12 Nov 2018
เกมเพลย์ใหม่ Shadow of the Tomb Raider จากงาน PAX West
ในงาน PAX West 2018 ที่จัดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Square Enix และผู้พัฒนา Eidos Montreal ได้จัดเวทีเสวนาเพื่อพูดถึงเกมใหม่ๆ ของค่าย โดยหนึ่งในเกมที่ได้รับความสนใจที่สุดในเวทีคือเกม Shadow of the Tomb Raider ที่ขนเอาวีดีโอเกมเพลย์ใหม่ๆ มาให้ชมกันในงาน! โดยวีดีโอทั้งสองจะแสดงเกมเพลย์การตะลุยสุสาน Challenge Tomb ที่ตั้งอยู่ในดินแดน Paititi ของเกม โดยบนเวทีได้แสดงสุสานสองแห่งด้วยกันคือ Warriors Trial และ Trial of the Eagle  Warriors Trial https://www.youtube.com/watch?list=PLLfhkR8m8wYsWJoVG4iY7KzIX4FJw1sYj&v=2F5kdCMjj-I Trial of the Eagle https://www.youtube.com/watch?v=W3T6IJfci5A ในเกมจะมีสุสาน Challenge Tomb ทั้งหมดสี่แห่งด้วยกัน โดยอีกสองแห่งที่ไม่ได้แสดงประกอบไปด้วย Trial of the Jaguar และ Trial of the Spider Shadow of the Tomb Raider จะวางจำหน่ายในวันที่ 14 กันยายนนี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC (ขอบคุณข้อมูลและวีดีโอจาก DualShockers)
03 Sep 2018
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "Shadow of the Tomb Raider"
Lenovo Legion 5 ที่สุดแห่งดีไซน์! โมเดลที่เหมาะจะเป็นเครื่องรองพกพามากที่สุด
โดยปกติแล้ว เชื่อว่าเกมเมอร์บน PC ในปัจจุบันได้หันมาใช้เครื่องแบบประกอบกันหมดแล้ว เนื่องจากมีราคาถูกลงเป็นอย่างมาก ทั้งยังสามารถเพิ่มลดราคาในชิ้นส่วนต่างๆ ได้ตามใจ แต่การใช้เครื่องแบบประกอบก็มีปัญหาในเรื่องของความสะดวกเวลาใช้งานนอกสถานที่ เนื่องจากการยกไปยกมาไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลย ส่งผลให้หลายคนเลือกที่จะซื้อ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาไม่แพงมาก เอาไว้ใช้เล่นเกมเมื่อจำเป็นต้องเดินทางไปที่ไกลๆ ซึ่งทางฝั่งผู้ผลิตเองก็เล็งเห็นถึงจุดนี้ และเริ่มให้ความสำคัญกับตลาดโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาจับต้องได้มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ Lenovo ที่ออกซีรีส์ Legion ของพวกเขาให้มีราคาตั้งแต่ 20,000 กลางๆ ไปจนถึง เกือบๆ 100.000 โดยเครื่องที่ผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักวันนี้คือ LENOVO LEGION 5 15ARH05-82B500FQTA ที่มีราคาอยู่ที่ประมาณ 33.000 บาท ครับ ดีไซน์เรียบหรูดูแพง เรื่องแรกที่เห็นแล้วเป็นต้องหลงรักเลยคือในเรื่องของดีไซน์ที่มาในสีดำเรียบทั้งเครื่อง เรียบเนียน บางเฉียบ คือเห็นแล้วจะมีความรู้สึกว่า "เครื่องนี้จะต้องมีราคาอย่างแน่นอน" แต่ในความเป็นจริงๆ ราคาของ Legion 5 ก็ไม่ถึงกับจับต้องไม่ได้เหมือนกับตัวท็อปๆ ของแบรนด์อื่นครับ ล่าสุดที่พบเช็กในเว็บไซต์ของ JIB รุ่นที่ผมได้มามีราคาแค่เพียง 32,900 บาทเท่านั้น คือเรียกได้ว่าไม่แพงจนเกินไปจริงๆ น้ำหนักเพียง 2.46 กิโล เบากว่านี้ก็มือถือแล้ว Legion 5 ถือได้ว่าเป็นโมเดลที่ Lenovo ใส่ใจเรื่องของการออกแบบเป็นอย่างมาก โดยสามารถสัมผัสได้เลยหลังจากได้ใช้งานด้วยตัวเอง เรื่องแรกคือน้ำหนักที่ไม่มากจนเกินไปเพียงแต่ 2.46 กิโลเท่านั้น ส่งผลให้การพกพาโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งเครื่องนี้ไปเล่นนอกสถานที่สามารถทำได้ง่าย และไม่เป็นภาระของผู้ใช้งาน พอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาเยอะ และไม่เกะกะ เรื่องที่สองคือพอร์ตการเชื่อมต่อ Legion 5 ออกแบบให้เกือบทั้งหมดต้องทำผ่านหลังเครื่องเท่านั้น และเหลือ USB ไว้ทางซ้ายกับขวาของเครื่องเพียงแค่ด้านละ 1 พอร์ต ซึ่งการทำแบบนี้จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานมีพื้นที่สำหรับขยับเมาส์ไปมาได้มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาหัวของสาย USB จากเมาส์, คีย์บอร์ด, สาย Power, และ สาย HDMI มักสร้างปัญหากินพื้นที่ข้างๆ ของโน๊ตบุ๊คไปโดยไม่จำเป็นเสมอ ถือได้ว่าคิดเพื่อผู้ใช้งานมาเป็นอย่างดีจริงๆ ครับ คุณสมบัตติทางเทคนิค CPU: AMD Ryzen 7 4600H Max boots 4.2 GHz GPU: NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti 4GB GDDR6 Screen Size: 15.6" (1920x1080) Full HD Panel Type: IPS Anti Glare – จอด้าน Refresh Rate: 144 Hz Memory Size: 8 GB DDR4 Solid State Drive: 512 GB SSD PCIe M.2 Weight: 2.46 kg OS Bundle: Windows 10 Home (64 Bit) หลังจากได้อ่านสเปคคร่าวๆ แล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า เจ้าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไม่ได้มาพร้อมกับสเปคที่แรงอะไรมากมายนัก แต่ก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อยจนเล่นเกมใหญ่ๆ ไม่ไหว กล่าวคือเป็นสเปคที่สมราคา และไม่แพงจนเกินไปจะถือว่าถูกต้องที่สุดครับ ออกแบบมาให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น โดยปกติแล้วโน๊ตบุ๊คจะมีข้อเสียที่ร้ายแรงมากๆ อยู่ที่การระบายความร้อน เนื่องจากพัดลมที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และทิศทางการระบายที่ไม่ดีเท่ากับเครื่อง PC โดยเจ้า Legion 5 ถูกออกแบบมาดูดลมเย็นเข้าข้างล่าง และระบายออกทางด้านหลังของเครื่อง และมีการยกเครื่องให้สูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ลมเย็นสามารถไหลเข้าไปใต้เครื่องได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็ถือว่าช่วยได้เยอะมากเลยจาก เท่าที่ผมได้ใช้งานมาครับ เล่นเกมเป็นไง ในส่วนของการเล่นเกมตัวผมเองได้ทำการ Test ในเกมสองกลุ่มคือที่เป็นแนว Online เน้นไปที่การเล่นแบบ Multiplayer กับกลุ่มเกม AAA ที่มีกราฟิกหนักๆ ซึ่งจะขอกล่าวรวมถึงโชว์ผลทดสอบต่อไปแบบแบ่งหมวดหมู่กันข้างล่างนี้ครับ เกม AAA โดยปกติเกมตระกูลนี้จะมาพร้อมกับ ภาพ / กราฟิก ที่สวยงาม ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความสามารถของ Hardware ที่สูงถึงจะดันภาพได้มากกว่า 60 FPS ผมได้ทดลองใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ทดลองเล่น 3 เกมด้วยกันคือ Shadow of the Tomb Raider, Assassins Creed Valhalla และ Cyberpunk 2077 ครับ Shadow of the Tomb Raider ผมทดลองใช้ Benchmark ที่ตัวเกมมีมาให้ ในการทดสอบคุณภาพกราฟิกระดับ High ดู โดยเจ้าเครื่องนี้สามารถทำ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 54 FPS ซึ่งถือว่าทำได้เกินความคาดหมายของผมอยู่พอสมควร เนื่องจากเกมนี้จริงๆ แล้วค่อนข้างจะกินสเปคมาก และมีผู้เล่นหลายคนบ่นเกี่ยวกับเรื่อง FPS ที่ต่ำครับ ดูผลทดสอบได้ข้างล่างนี้ Assassins Creed Valhalla ต่อมาคือเกมภาคต่อของซีรีส์นักฆ่าที่ให้เรารับบทเป็นชาวไวกิง ซึ่งด้วยความที่เกมนี้มี Benchmark มาให้เหมือนกันผมเลยทำการทดสอบโดยตั้งคุณภาพของกราฟิกเป็นแบบ Custom โดยดันตัวเลือกต่างๆ ขึ้นไป High ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (แรมการ์ดจอน้อยเลยไป High หมดไม่ได้ครับ) โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 45 FPS ต่ำสุด 28 และสูงสุด 70 ครับ ดูผลทดสอบเต็มๆ ได้ข้างล่าง Cyberpunk 2077 ปิดท้ายด้วยเกมฟอร์มยักษ์จากทาง CD Projekt Red ที่น่าจะมีกราฟิกโหดที่สุดในตอนนี้ น่าเสียดายที่เกมนี้ไม่มี Benchmark มาให้ใช้ด้วยเช่นเดียวกับทั้งสองเกมข้างบนผมจึงไม่มีค่าเฉลี่ยหรือกราฟมาให้ดู เบื้องต้นผมตั้งค่ากราฟิกไว้ที่ Medium เท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ใกล้เคียงกับ Assassins Creed Valhalla มีค่า Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ประมาณ 45 FPS มีลงไปต่ำถึง 22 - 28 FPS บ้าง และในฉากต่อสู้แบบดุเดือดจัดๆ จะเฉลี่ยอยู่ที่ 35 - 40 FPS ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ แนว Online เน้น Multiplayer เชื่อว่าถ้าเป็นแนวนี้เพื่อนๆ น่าจะอยากเห็นผลทดสอบของเกมตระกูล FPS มากที่สุดผมจึงเลือกเกมมาทดสอบสองตัวด้วยกันคือ Apex Legends และ Valorant ครับ Apex Legends ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกม Battle Royale ที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะมีอายุได้ 3 ปีแล้ว โดยสำหรับเพื่อนๆ ที่เล่นเกมนี้อยู่น่าจะทราบดีเลยว่า Apex เป็นเกมอีกเกมกินสเปคสูงมาก โดยในการทดสอบครั้งนี้ผมได้ตั้งค่าทุกอย่างเอาไว้ที่ High เลย ซึ่งเครื่องก็สามารถทำ FPS เฉลี่ยได้มากกว่า 60 FPS และมีขึ้นไปสูงถึง 100 FPS บ้างในที่มืด รวมถึงมีตกลงไปถึง 49 FPS บ้างเวลาดวลปืนกันแบบเดือดๆ ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ Valorant ดูเกมที่ใช้สเปคแรงๆ ไปแล้วมาดูเกมที่ไม่ค่อยกินเท่าไหร่อย่าง Valorant บ้าง เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ผมได้ตั้งค่ากราฟิกของเกมไว้ที่ High เช่นกัน โดยค่า FPS เฉลี่ยก็อยู่ที่มากกว่า 120 ครับมีบางครั้งที่ตกลงไปถึง 100 บ้าง และก็มีบางครั้งที่พุ่งขึ้นไปถึง 170 FPS เช่นกัน สรุป โดยรวมแล้ว Legion 5 ถือเป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องรอง ที่เหมาะจะเอาไว้เล่นเกมเวลาจำเป็นต้องออกไปนอกสถานที่สำหรับเหล่าเกมเมอร์ และอาจเป็นเครื่องที่เหมาะจะใช้เป็นเครื่องหลักหากไม่ได้มีรสนิยมชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ ก็สามารถซื้อรุ่นนี้ไปใช้งานได้ แต่ถ้าหากเป็นคนชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ เป็นหลักแล้วละก็ ตัวผมเองไม่แนะนำเท่าไหร่ครับ เนื่องจากต่อให้โมเดลนี้จะสามารถระบายความร้อนได้ดีขนาดไหน ตัวเครื่องก็ยังถือว่ามีความร้อนที่สูงจนอาจเป็นอันตรายต่อ อะไหล่ภายใน หรือตัวผู้ใช้งานอยู่ดีครับ  
19 Feb 2021
Lenovo Legion 5 ที่สุดแห่งดีไซน์! โมเดลที่เหมาะจะเป็นเครื่องรองพกพามากที่สุด
โดยปกติแล้ว เชื่อว่าเกมเมอร์บน PC ในปัจจุบันได้หันมาใช้เครื่องแบบประกอบกันหมดแล้ว เนื่องจากมีราคาถูกลงเป็นอย่างมาก ทั้งยังสามารถเพิ่มลดราคาในชิ้นส่วนต่างๆ ได้ตามใจ แต่การใช้เครื่องแบบประกอบก็มีปัญหาในเรื่องของความสะดวกเวลาใช้งานนอกสถานที่ เนื่องจากการยกไปยกมาไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลย ส่งผลให้หลายคนเลือกที่จะซื้อ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาไม่แพงมาก เอาไว้ใช้เล่นเกมเมื่อจำเป็นต้องเดินทางไปที่ไกลๆ ซึ่งทางฝั่งผู้ผลิตเองก็เล็งเห็นถึงจุดนี้ และเริ่มให้ความสำคัญกับตลาดโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาจับต้องได้มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ Lenovo ที่ออกซีรีส์ Legion ของพวกเขาให้มีราคาตั้งแต่ 20,000 กลางๆ ไปจนถึง เกือบๆ 100.000 โดยเครื่องที่ผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักวันนี้คือ LENOVO LEGION 5 15ARH05-82B500FQTA ที่มีราคาอยู่ที่ประมาณ 33.000 บาท ครับ ดีไซน์เรียบหรูดูแพง เรื่องแรกที่เห็นแล้วเป็นต้องหลงรักเลยคือในเรื่องของดีไซน์ที่มาในสีดำเรียบทั้งเครื่อง เรียบเนียน บางเฉียบ คือเห็นแล้วจะมีความรู้สึกว่า "เครื่องนี้จะต้องมีราคาอย่างแน่นอน" แต่ในความเป็นจริงๆ ราคาของ Legion 5 ก็ไม่ถึงกับจับต้องไม่ได้เหมือนกับตัวท็อปๆ ของแบรนด์อื่นครับ ล่าสุดที่พบเช็กในเว็บไซต์ของ JIB รุ่นที่ผมได้มามีราคาแค่เพียง 32,900 บาทเท่านั้น คือเรียกได้ว่าไม่แพงจนเกินไปจริงๆ น้ำหนักเพียง 2.46 กิโล เบากว่านี้ก็มือถือแล้ว Legion 5 ถือได้ว่าเป็นโมเดลที่ Lenovo ใส่ใจเรื่องของการออกแบบเป็นอย่างมาก โดยสามารถสัมผัสได้เลยหลังจากได้ใช้งานด้วยตัวเอง เรื่องแรกคือน้ำหนักที่ไม่มากจนเกินไปเพียงแต่ 2.46 กิโลเท่านั้น ส่งผลให้การพกพาโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งเครื่องนี้ไปเล่นนอกสถานที่สามารถทำได้ง่าย และไม่เป็นภาระของผู้ใช้งาน พอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาเยอะ และไม่เกะกะ เรื่องที่สองคือพอร์ตการเชื่อมต่อ Legion 5 ออกแบบให้เกือบทั้งหมดต้องทำผ่านหลังเครื่องเท่านั้น และเหลือ USB ไว้ทางซ้ายกับขวาของเครื่องเพียงแค่ด้านละ 1 พอร์ต ซึ่งการทำแบบนี้จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานมีพื้นที่สำหรับขยับเมาส์ไปมาได้มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาหัวของสาย USB จากเมาส์, คีย์บอร์ด, สาย Power, และ สาย HDMI มักสร้างปัญหากินพื้นที่ข้างๆ ของโน๊ตบุ๊คไปโดยไม่จำเป็นเสมอ ถือได้ว่าคิดเพื่อผู้ใช้งานมาเป็นอย่างดีจริงๆ ครับ คุณสมบัตติทางเทคนิค CPU: AMD Ryzen 7 4600H Max boots 4.2 GHz GPU: NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti 4GB GDDR6 Screen Size: 15.6" (1920x1080) Full HD Panel Type: IPS Anti Glare – จอด้าน Refresh Rate: 144 Hz Memory Size: 8 GB DDR4 Solid State Drive: 512 GB SSD PCIe M.2 Weight: 2.46 kg OS Bundle: Windows 10 Home (64 Bit) หลังจากได้อ่านสเปคคร่าวๆ แล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า เจ้าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไม่ได้มาพร้อมกับสเปคที่แรงอะไรมากมายนัก แต่ก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อยจนเล่นเกมใหญ่ๆ ไม่ไหว กล่าวคือเป็นสเปคที่สมราคา และไม่แพงจนเกินไปจะถือว่าถูกต้องที่สุดครับ ออกแบบมาให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น โดยปกติแล้วโน๊ตบุ๊คจะมีข้อเสียที่ร้ายแรงมากๆ อยู่ที่การระบายความร้อน เนื่องจากพัดลมที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และทิศทางการระบายที่ไม่ดีเท่ากับเครื่อง PC โดยเจ้า Legion 5 ถูกออกแบบมาดูดลมเย็นเข้าข้างล่าง และระบายออกทางด้านหลังของเครื่อง และมีการยกเครื่องให้สูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ลมเย็นสามารถไหลเข้าไปใต้เครื่องได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็ถือว่าช่วยได้เยอะมากเลยจาก เท่าที่ผมได้ใช้งานมาครับ เล่นเกมเป็นไง ในส่วนของการเล่นเกมตัวผมเองได้ทำการ Test ในเกมสองกลุ่มคือที่เป็นแนว Online เน้นไปที่การเล่นแบบ Multiplayer กับกลุ่มเกม AAA ที่มีกราฟิกหนักๆ ซึ่งจะขอกล่าวรวมถึงโชว์ผลทดสอบต่อไปแบบแบ่งหมวดหมู่กันข้างล่างนี้ครับ เกม AAA โดยปกติเกมตระกูลนี้จะมาพร้อมกับ ภาพ / กราฟิก ที่สวยงาม ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความสามารถของ Hardware ที่สูงถึงจะดันภาพได้มากกว่า 60 FPS ผมได้ทดลองใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ทดลองเล่น 3 เกมด้วยกันคือ Shadow of the Tomb Raider, Assassins Creed Valhalla และ Cyberpunk 2077 ครับ Shadow of the Tomb Raider ผมทดลองใช้ Benchmark ที่ตัวเกมมีมาให้ ในการทดสอบคุณภาพกราฟิกระดับ High ดู โดยเจ้าเครื่องนี้สามารถทำ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 54 FPS ซึ่งถือว่าทำได้เกินความคาดหมายของผมอยู่พอสมควร เนื่องจากเกมนี้จริงๆ แล้วค่อนข้างจะกินสเปคมาก และมีผู้เล่นหลายคนบ่นเกี่ยวกับเรื่อง FPS ที่ต่ำครับ ดูผลทดสอบได้ข้างล่างนี้ Assassins Creed Valhalla ต่อมาคือเกมภาคต่อของซีรีส์นักฆ่าที่ให้เรารับบทเป็นชาวไวกิง ซึ่งด้วยความที่เกมนี้มี Benchmark มาให้เหมือนกันผมเลยทำการทดสอบโดยตั้งคุณภาพของกราฟิกเป็นแบบ Custom โดยดันตัวเลือกต่างๆ ขึ้นไป High ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (แรมการ์ดจอน้อยเลยไป High หมดไม่ได้ครับ) โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 45 FPS ต่ำสุด 28 และสูงสุด 70 ครับ ดูผลทดสอบเต็มๆ ได้ข้างล่าง Cyberpunk 2077 ปิดท้ายด้วยเกมฟอร์มยักษ์จากทาง CD Projekt Red ที่น่าจะมีกราฟิกโหดที่สุดในตอนนี้ น่าเสียดายที่เกมนี้ไม่มี Benchmark มาให้ใช้ด้วยเช่นเดียวกับทั้งสองเกมข้างบนผมจึงไม่มีค่าเฉลี่ยหรือกราฟมาให้ดู เบื้องต้นผมตั้งค่ากราฟิกไว้ที่ Medium เท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ใกล้เคียงกับ Assassins Creed Valhalla มีค่า Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ประมาณ 45 FPS มีลงไปต่ำถึง 22 - 28 FPS บ้าง และในฉากต่อสู้แบบดุเดือดจัดๆ จะเฉลี่ยอยู่ที่ 35 - 40 FPS ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ แนว Online เน้น Multiplayer เชื่อว่าถ้าเป็นแนวนี้เพื่อนๆ น่าจะอยากเห็นผลทดสอบของเกมตระกูล FPS มากที่สุดผมจึงเลือกเกมมาทดสอบสองตัวด้วยกันคือ Apex Legends และ Valorant ครับ Apex Legends ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกม Battle Royale ที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะมีอายุได้ 3 ปีแล้ว โดยสำหรับเพื่อนๆ ที่เล่นเกมนี้อยู่น่าจะทราบดีเลยว่า Apex เป็นเกมอีกเกมกินสเปคสูงมาก โดยในการทดสอบครั้งนี้ผมได้ตั้งค่าทุกอย่างเอาไว้ที่ High เลย ซึ่งเครื่องก็สามารถทำ FPS เฉลี่ยได้มากกว่า 60 FPS และมีขึ้นไปสูงถึง 100 FPS บ้างในที่มืด รวมถึงมีตกลงไปถึง 49 FPS บ้างเวลาดวลปืนกันแบบเดือดๆ ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ Valorant ดูเกมที่ใช้สเปคแรงๆ ไปแล้วมาดูเกมที่ไม่ค่อยกินเท่าไหร่อย่าง Valorant บ้าง เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ผมได้ตั้งค่ากราฟิกของเกมไว้ที่ High เช่นกัน โดยค่า FPS เฉลี่ยก็อยู่ที่มากกว่า 120 ครับมีบางครั้งที่ตกลงไปถึง 100 บ้าง และก็มีบางครั้งที่พุ่งขึ้นไปถึง 170 FPS เช่นกัน สรุป โดยรวมแล้ว Legion 5 ถือเป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องรอง ที่เหมาะจะเอาไว้เล่นเกมเวลาจำเป็นต้องออกไปนอกสถานที่สำหรับเหล่าเกมเมอร์ และอาจเป็นเครื่องที่เหมาะจะใช้เป็นเครื่องหลักหากไม่ได้มีรสนิยมชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ ก็สามารถซื้อรุ่นนี้ไปใช้งานได้ แต่ถ้าหากเป็นคนชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ เป็นหลักแล้วละก็ ตัวผมเองไม่แนะนำเท่าไหร่ครับ เนื่องจากต่อให้โมเดลนี้จะสามารถระบายความร้อนได้ดีขนาดไหน ตัวเครื่องก็ยังถือว่ามีความร้อนที่สูงจนอาจเป็นอันตรายต่อ อะไหล่ภายใน หรือตัวผู้ใช้งานอยู่ดีครับ  
19 Feb 2021
Shadow of the Tomb Raider ปล่อยตัวอย่าง DLC ใหม่ The Forge
เผย DLC ตัวแรกออกมาแล้วสำหรับเกม Shadow of the Tomb Raider ที่เราจะได้พาสาวน้อย Lala Croft เข้าสู่ดินแดนลาวา Forge of the fallen gods ที่จะต้องค้นหาความลับของ Kuwaq Yaku โดยเนื้อหาเสริมนี้มีทั้งโหมดผู้เล่นคนเดียวและผู้เล่นสองคน โดยใครที่สามารถผ่านปริศนาต่างๆ จะได้รับ Grenadier skill, Brocken outfit, และ Umbrage 3-80 weapon. https://www.youtube.com/watch?time_continue=29&v=IVe73qxDL0M โดย DLC ตัวนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2018 สนนราคาราวๆ 4.99$ หรือรวมใน Season Pass Shadow of Tomb Raider เป็นเกมแนว Action Adventure จากทาง Square Enix โดยในภาคนี้ทางผู้พัฒนาบอกว่าจะเป็นภาคสุดท้ายที่เราจะได้พบเจอกับ Lala Croft ในช่วงเริ่มต้น ก่อนสู่การเป็นมืออาชีพที่แท้จริง โดยตัวเกมลงบนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One สนนราคาราวๆ 1,989 บาท LINK ขอบคุณข้อมูลจาก Gematsu
12 Nov 2018
เกมเพลย์ใหม่ Shadow of the Tomb Raider จากงาน PAX West
ในงาน PAX West 2018 ที่จัดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Square Enix และผู้พัฒนา Eidos Montreal ได้จัดเวทีเสวนาเพื่อพูดถึงเกมใหม่ๆ ของค่าย โดยหนึ่งในเกมที่ได้รับความสนใจที่สุดในเวทีคือเกม Shadow of the Tomb Raider ที่ขนเอาวีดีโอเกมเพลย์ใหม่ๆ มาให้ชมกันในงาน! โดยวีดีโอทั้งสองจะแสดงเกมเพลย์การตะลุยสุสาน Challenge Tomb ที่ตั้งอยู่ในดินแดน Paititi ของเกม โดยบนเวทีได้แสดงสุสานสองแห่งด้วยกันคือ Warriors Trial และ Trial of the Eagle  Warriors Trial https://www.youtube.com/watch?list=PLLfhkR8m8wYsWJoVG4iY7KzIX4FJw1sYj&v=2F5kdCMjj-I Trial of the Eagle https://www.youtube.com/watch?v=W3T6IJfci5A ในเกมจะมีสุสาน Challenge Tomb ทั้งหมดสี่แห่งด้วยกัน โดยอีกสองแห่งที่ไม่ได้แสดงประกอบไปด้วย Trial of the Jaguar และ Trial of the Spider Shadow of the Tomb Raider จะวางจำหน่ายในวันที่ 14 กันยายนนี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC (ขอบคุณข้อมูลและวีดีโอจาก DualShockers)
03 Sep 2018